ประวัติ USA ดินแดนแห่งเสรีภาพ มหาอำนาจตะวันตก

USA ดินแดนแห่งเสรีภาพ สหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งในประเทศที่แม้ว่าจะไม่ได้มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปีเหมือนประเทศใหญ่อื่นๆ เป็น หนึ่งในประเทศที่ใหญ่ที่สุด คราวนี้เราจะมาย้อนดูกันสักหน่อย มาดูกันว่ากว่าจะมาถึงวันนี้ได้ต้องผ่านอะไรมาบ้าง

 

ข้อมูลเบื้องต้น USA ดินแดนแห่งเสรีภาพ (United States of America)

 

USA ดินแดนแห่งเสรีภาพ  สหรัฐอเมริกามีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 หรือ 4 ของโลก (พื้นที่ประเทศไทย 18 เท่า) ใช้เวลาบินถึงชายฝั่งตะวันออกนานถึง 5 ชั่วโมง ทางตอนเหนือของประเทศมีพรมแดนติดกับประเทศแคนาดา มีพรมแดนติดกับเม็กซิโกและอ่าวเม็กซิโกทางทิศใต้ มีพรมแดนติดกับมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก และติดมหาสมุทรแอตแลนติกทางทิศตะวันออก

สหรัฐอเมริกาเป็นรัฐบาลกลางที่เป็น ประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ ประกอบด้วย 50 รัฐและเขตปกครองพิเศษ เมืองหลวงตั้งอยู่ใน กรุงวอชิงตัน ดิสตริกต์ออฟโคลัมเบีย (วอชิงตัน ดี.ซี.) สหรัฐอเมริกายังมีดินแดนที่มีผู้คนอาศัยอยู่ 5 แห่ง ได้แก่ อเมริกันซามัว กวม หมู่เกาะนอร์เทิร์นมาเรียนา เปอร์โตริโก และหมู่เกาะเวอร์จิน ดินแดนอื่นๆ อีก 9 แห่งเป็นพื้นที่รกร้างว่างเปล่าซึ่งรวมถึง โซนเหล่านี้ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก และแคริบเบียน

 

ชนพื้นเมืองดั้งเดิมในอเมริกา

 

คริสโตเฟอร์ โคลัมบัสได้ตั้งรกรากอยู่ในบริเวณนี้แล้วก่อนที่เขาจะค้นพบทวีปอเมริกาเหนือ พวกเขาเป็นชนพื้นเมืองที่เชื่อว่าอพยพมาจากเอเชียเมื่อ 40,000 ถึง 12,000 ปีที่แล้ว ข้ามช่องแคบแบริ่ง สมัยนั้น ชาวยุโรปเรียกชนพื้นเมืองกลุ่มนี้ว่า อินเดียแดง หรือที่เราเคยได้ยินว่า อินเดียแดง แต่ปัจจุบันเลิกใช้ไปแล้ว เพราะถือว่าเป็นเรื่องลามกอนาจารที่จะกล่าวถึง แทนที่จะเปลี่ยนเป็นชนพื้นเมืองอเมริกัน

 

ประวัติศาสตร์อเมริกา ยุคเริ่มต้น

 

ทวีปอเมริกาเหนือ ถูกค้นพบโดย คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส นักเดินเรือชาวอิตาลี เขาตั้งใจจะล่องเรือข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกไปยังอินเดียและจีน เมื่อเขาพบดินแดนนั้น เขาเข้าใจผิดคิดว่าเป็นอินเดียและตั้งชื่อว่าอินเดียตะวันตก มันคือบาฮามาสในปัจจุบัน แต่เมื่อโคลัมบัสได้พบกับชาวพื้นเมืองของหมู่เกาะนี้ จึงรู้ว่าทั้งจีนและอินเดียต่างก็เป็นดินแดนใหม่ที่ยังไม่เคยถูกค้นพบมาก่อน ดังนั้นเขาจึงนำทองคำกลับไปที่สเปนก่อนที่จะกลับมาอีกครั้งและสำรวจอเมริกาใต้

จากนั้นโคลัมบัสก็เสียชีวิต นักเดินเรือชาวอิตาลีชื่อ อเมริโก เวสปุชชี เดินเรือในเส้นทางเดียวกับโคลัมบัส ทวีปอเมริกาได้รับการตั้งชื่อตามอาเมริโก เวสปุชชี โดยการก้มหัวเรือไปทางทิศเหนือจนกระทั่งเขาค้นพบทวีปอเมริกา

 

อเมริกา ยุคสร้างอาณานิคม

 

ในช่วงแรก สเปน เป็นประเทศแรกที่ตั้งรกรากในทวีปอเมริกา อังกฤษยึดครองเจมส์ทาวน์หรือเวอร์จิเนียในปัจจุบันเป็นครั้งแรกในปี 1607 และในช่วงนี้ก็เริ่มนำทาสผิวดำจากแอฟริกาเข้ามาใช้

ในปี 1638 สวีเดนได้ยึดครองเดลาแวร์ แต่ถูกยึดครองโดยฮอลแลนด์ ฮอลแลนด์เป็นอาณานิคมของ นิวเนเธอร์แลนด์ ซึ่งประกอบด้วยนิวอัมสเตอร์ดัม (ปัจจุบันคือนิวยอร์ก) นิวเจอร์ซีย์ เดลาแวร์ และเพนซิลเวเนีย การแข่งขันระหว่างอังกฤษและเนเธอร์แลนด์นำไปสู่สงครามอังกฤษ-ดัตช์ในปี ค.ศ. 1652-1674 นิวอัมสเตอร์ดัมถูกยึดครองโดยอังกฤษในปี ค.ศ. 1664 และในปี ค.ศ. 1667 สนธิสัญญาเบรดาได้ยกนิวเนเธอร์แลนด์ให้กับอังกฤษ

 

 Boston Tea Party จุดเริ่มต้นการประกาศสงครามของอเมริกา

 

ย้อนกลับไปในปี 1773 อเมริกาเหนือยังเป็นอาณานิคมของอังกฤษ คนส่วนใหญ่ยังคงมี วัฒนธรรมการดื่มชา จากเกาะของตน คิดไม่ถึงว่าจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งระหว่างเจ้าอาณานิคมและอังกฤษเริ่มต้นจากจุดเริ่มต้นอันต่ำต้อยเหล่านี้

ในฐานะมหาอำนาจอาณานิคม อังกฤษ (หรือบริเตนใหญ่) ต้องการเงินจำนวนมากเพื่อสนับสนุนกองทัพของตนเพื่อขยายอาณาเขตของตน ส่งผลให้มีการเก็บภาษีอย่างโหดเหี้ยมในประเทศอาณานิคม รวมถึงพระราชบัญญัติชา บริษัทอินเดียตะวันออก ของอังกฤษ (East India Company) มีสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการขายใบชาในอาณานิคม ดังนั้น บริษัทจึงสามารถขึ้นราคาสินค้าได้ตามใจ

ในวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2316 กลุ่มผู้ประท้วงได้ตั้งชื่อบุตรแห่งเสรีภาพประมาณ 100 คน โดยบางคนแต่งกายเป็นชนพื้นเมืองอเมริกัน การขนส่งชาทั้งหมดที่จัดส่งโดยบริษัทอินเดียตะวันออกของอังกฤษถูกทำลายโดยการยึดเรือและโยนกล่องชาลงทะเลในท่าเรือบอสตันเอง

หลังจากนั้นรัฐบาลอังกฤษก็ตอบโต้อย่างแข็งกร้าว รัฐแมสซาชูเซตส์ ได้รับคำสั่งให้ปิดท่าเรือบอสตัน ประกาศกฎอัยการศึกเพื่อล้มล้างรัฐธรรมนูญของรัฐ และปลดผู้บริหารของรัฐออกจนสถานการณ์บานปลาย นำไปสู่การประกาศสงครามกับเจ้าอาณานิคมอังกฤษในปี พ.ศ. 2319 โดยมีการเปิดการประชุมที่เมืองฟิลาเดลเฟีย และก่อตั้งกองทัพภาคพื้นทวีปภายใต้คำสั่งของจอร์จ วอชิงตัน และประกาศว่า “มนุษย์ทุกคนเกิดมาเท่าเทียมกัน” และผู้ชายทุกคนมี สภาคองเกรสได้ออกคำประกาศอิสรภาพของสหรัฐอเมริกา คำส่วนใหญ่ได้รับการประกาศเกียรติคุณโดย Thomas Jefferson เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2319 (วันนี้เป็นวันประกาศอิสรภาพของอเมริกา)

จากนั้นกองทัพอเมริกันได้รับชัยชนะเหนือกองทัพอังกฤษ อเมริกากลายเป็นสหรัฐอเมริกา จอร์จ วอชิงตันได้รับเลือกอย่างเป็นเอกฉันท์ให้เป็นประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกาในปี พ.ศ. 2332

 

สงครามกลางเมืองอเมริกา American Civil War

 

USA ดินแดนแห่งเสรีภาพ ไม่นานหลังจากที่อเมริกาได้รับเอกราชจากจักรวรรดิอังกฤษ สงครามครั้งใหม่ก็เริ่มขึ้นในปี 2403 เมื่อ อับราฮัม ลินคอล์นขึ้นเป็นประธานาธิบดีของอเมริกา มีความขัดแย้งที่แบ่งประเทศออกเป็นสองฝ่ายระหว่างรัฐทางเหนือหรือกลุ่มผู้นิยมลัทธิการล้มเลิกทาสที่ต้องการยกเลิกทาสที่ชาวอเมริกันนำมาจากแอฟริกา กับสมาพันธรัฐอเมริกาต้องการแรงงานจำนวนมากในภาคการเกษตร และไม่ต้องการให้มีการเลิกทาส

สงครามกลางเมือง กินเวลาสี่ปีและจบลงด้วยชัยชนะของฝ่ายเหนือ ทาสถูกยกเลิกทั่วสหรัฐอเมริกา ชาวอเมริกันทุกคนมีสิทธิ์ลงคะแนนหากมีคุณสมบัติ รวมถึงการอนุญาตให้ชาวแอฟริกันผิวดำที่เคยเป็นทาส มีสิทธิในการเลือกตั้ง ตั้งแต่นั้นมา พลเมืองอเมริกันทุกคนมีอิสระ เสรีภาพเท่าเทียมกัน แต่สงครามกลางเมืองครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1,030,000 คน (สามเปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งหมด) โดยมีทหารเสียชีวิตทั้งหมด 620,000 นาย สองในสามเกิดจากโรคระบาด และการติดเชื้อ และพลเรือน 50,000 คนเสียชีวิต

 

บทความแนะนำ